ข่าวเรื่อง13 ชีวิตที่ถ้ำหลวงที่ไทยก็เป็นข่าวดังที่ญี่ปุ่นเช่นกันค่ะ และก็ดูเหมือนว่าข่าวนี้ถูกยกมาเป็นอยู่บ่อยครั้งจนคนญี่ปุ่นบางคนถึงกับคิดว่า “ทั้งๆที่เป็นข่าวของไทยแต่ทำไมถึงยกขึ้นมาพูดบ่อยขนาดนี้?”
ฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นก็ส่งกำลังใจให้ 13 ชีวิตที่ถ้ำหลวงว่า “อย่ายอมแพ้นะ! สู้ๆ!”
タイの洞窟で閉じ込められているサッカーチームの選手とコーチに向けて、FIFAワールドカップに出場している日本代表チームからメッセージを送ります。「負けるな!頑張れ!」”Hang on! Football Family are with you.” #ThailandCaveRescue #footballfamily pic.twitter.com/aoqBdRKjf4
— サッカー日本代表 (@jfa_samuraiblue) 2018年7月4日
หนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ญี่ปุ่นได้รายงานข่าวนี้เป็นจำนวนมาก ส่วนทางบริษัทหนังสือพิมพ์ชั้นนำอย่างหนังสือพิมพ์ Asahi ได้ทำการเปรียบเทียบว่า “ถ้าเป็นญี่ปุ่นจะเป็นอย่างไร?”
เหตุผลที่เด็กไทยทั้ง 13 คนเข้าไปในถ้ำลึกลับ ไทยไม่มีการวิจารณ์เรื่องความรับผิดชอบส่วนตัว
บทความนี้เขียนไว้ดังต่อไปนี้ค่ะ “พวกเด็กๆมักจะชอบไปทดสอบความกล้าโดยการเข้าไปถึงข้างในสุดของถ้ำ วันนั้นเป็นวันเกิดของสมาชิกคนหนึ่งในทีมฟุตบอล พวกเขาจึงเข้าไปในถ้ำเพื่อจะร้องเพลงวันเกิดในถ้ำ ซึ่งเรื่องนี้ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นก็คงจะวิจารณ์กันว่า “เป็นความรับผิดชอบส่วนตัว” ที่ไทยก็มีบางเสียงที่โทษว่าเป็นความรับผิดชอบของโค้ช แต่ก็ไม่มีใครวิจารณ์เด็กทั้ง 13 คนเลย ถ้าเป็นญี่ปุ่นล่ะก็จะต้องวิจารณ์ว่าการทดสอบความกล้าเป็นเรื่องที่ “ไม่ควรทำ” ไม่ก็ “บ้าบอ” อย่างแน่นอน ในทางกลับกันคนไทยต่างแสดงความดีใจกับการที่พวกเด็กๆปลอดภัย ซึ่งเหตุผลก็คือ คนไทยมีความใจกว้างต่างจากคนญี่ปุ่นนั่นเอง”
เราไปดูกันว่าคนญี่ปุ่นที่ได้เห็นบทความนี้มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง
คนญี่ปุ่นจะเข้มงวดกับคนอื่น แต่จะไม่เข้มงวดกับตัวเอง
แล้วทำไมถึงเข้าไปในถ้ำล่ะ มันแปลกตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
คงจะพูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับการกู้ภัยก่อนเลยล่ะสิ
คงไม่มีคนญี่ปุ่นคนไหนพูดถึงเรื่อง “ความรับผิดชอบส่วนตัว” กับเรื่องนี้หรอกมั้ง
ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดที่ญี่ปุ่นก็คงพูดแหละ ก็เพราะเข้าไปในถ้ำเพื่อทดสอบความกล้า
ยังไม่เคยเห็นคนพูดแบบนั้นกับเด็กเลย
ใครเป็นคนพูดแบบนั้นน่ะ?
ก็เพราะว่าที่ไทยมีคนใจดีและคนใจกว้างเยอะน่ะสิ
สมแล้วที่เรียกกันว่าเป็นประเทศแห่งรอยยิ้ม น่าหลงใหลตรงนี้นี่แหละ
ถ้าเป็นญี่ปุ่นก็คงวิจารณ์ผู้รับผิดชอบทีมฟุตบอล ถึงแม้ว่าจะขอโทษแล้ว แต่ยังไงก็จะไม่ยอมให้อภัยโดยการพูดว่ารับมือจัดการช้าหรือไม่ก็วิธีการขอโทษไม่ดีพอ
คงไม่มีใครพูดหรอกว่าเป็นความรับผิดชอบส่วนตัวของเด็ก บ้าไปแล้ว
เด็กก็เหมือนกับลูกแมว ถ้ามีใครมาพูดว่าเป็นความรับผิดชอบส่วนตัวของพวกเขาก็คงตกใจเหมือนกัน
สุดท้ายนี้เราไปดูคอมเมนต์ที่ได้รับความนิยมทั้ง 2 คอมเม้นต์กันค่ะ
1. ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นล่ะก็จะวิจารณ์ทั้งโค้ชรวมไปถึงครอบครัวของเขาจนกว่าเขาจะฆ่าตัวตาย
ใช่เลย 555
เห็นด้วย
อย่างกับอยู่ในยุคกลาง อยากให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วเร็วๆจัง
นอกจากคนญี่ปุ่นแล้วไม่มีใครฆ่าตัวตายหรอก คนที่ยอมฆ่าตัวตายง่ายๆก็มีแค่คนญี่ปุ่นบ้าๆเท่านั้นแหละ
คนญี่ปุ่นทั่วไปจะคิดว่า “ไม่ต้องคิดจะใช้เงินภาษีเพื่อช่วยพวกบ้านี่เลยนะ”
ศัตรูของคนญี่ปุ่นก็คือ คนญี่ปุ่น
สมกับเป็นคนญี่ปุ่นจริงๆที่ต้องให้คนในครอบครัวร่วมกันรับผิดชอบด้วย
ใช่เลย นี่แหละญี่ปุ่น
ต่อไปเป็นคอมเมนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นคอมเมนต์ที่ 2 ค่ะ
2.ไม่รู้ประเทศไหนกันแน่ที่เป็นประเทศด้อยพัฒนา
อย่าบอกนะว่าคิดว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว 555
ประเทศไทยกำลังมั่งคั่งและพัฒนาเป็นอย่างมาก อย่าคิดเลยว่าญี่ปุ่นที่ถดถอยลงทุกวันเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
ถ้าไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนา ญี่ปุ่นก็คงเป็นประเทศที่ถดถอยลง แล้วการที่จะพลิกผันนั้นก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นแหละ
ไม่เคยไปกรุงเทพหรอ? นอกจากโตเกียวแล้วกรุงเทพแซงหน้าทุกจังหวัดในญี่ปุ่นไปแล้วนะ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศด้อยพัฒนาในด้านจิตใจ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ถดถอยลงมากกว่าประเทศด้อยพัฒนานะ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศด้อยพัฒนากว่าไทยตั้งแต่ช่วงปี 2010 แล้ว
เศรษฐกิจที่ไทยเฟื่องฟูมาก ใกล้จะได้เป็นประเทศพัฒนาแล้วล่ะ ส่วนญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่สามารถหลุดจากการเป็นประเทศด้อยพัฒนาได้และกำลังจะเป็นประเทศที่ยากจนมากที่สุด เป็นความน่าอับอายของเอเชียที่อยู่ระดับต่ำกว่าเกาหลีเหนือ 555
ที่มา ( 2ch.sc )