ผู้สื่อข่าวของบริษัทหนังสือพิมพ์ญึ่ปุ่น “Asahi Shimbun” ซึ่งปัจจุบันทำงานอยู่ที่ประเทศไทย ได้นำเสนอประสบการณ์ของตนเองจากการไปทำงานที่ประเทศเยอรมันและประเทศไทย
ประสบการณ์จากการลืมของที่ประเทศไทย
มีโทรศัพท์จากที่แลกเงินเล็กๆแห่งหนึ่งที่กรุงเทพเข้ามา บอกว่าจำนวนเงินที่แลกจากเงินดอลล่าร์เป็นเงินบาทนั้นได้น้อยมาก และตัวเองก็เพิ่งรู้สึกตัวตอนที่กลับบ้านมาแล้ว ก็เลยตัดใจไป
พอเดินเข้าไปแบบกล้าๆกลัวๆ เขาก็เอาโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปหน้าฉัน แล้วก็ส่งไปให้พนักงานอีกคนที่รับผิดชอบเรื่องของฉันเพื่อยืนยันตัวตน หลังจากนั้นก็คืนของกลับมาให้อย่างครบถ้วน เพราะมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ เวลาที่หน้าไม่ตรงกันก็ค่อนข้างกลบเกลื่อนได้ยาก
ยิ่งกว่านั้นยังเคยลืมพาสปอร์ตไว้บนรถแท็กซี่ที่นั่งไปลงที่สนามบิน แต่หลังจากที่ดูจากกล้องวงจรของโรงแรมก็ได้รู้ว่ารถแท็กซี่คันที่ลืมพาสปอร์ตเอาไว้คือคันไหน เลยติดต่อกลับไปให้คนขับนำกลับมาส่งคืนให้ได้ ฉันรู้สึกดีใจมากและจับมือขอบคุณคนขับแท็กซี่ คุณตำรวจที่สนามบินต่างก็ถ่ายรูปกันอย่างภาคภูมิใจ
พอมาอาทิตย์นี้ ได้ไปทำงานที่ประเทศเยอรมันเป็นครั้งแรก แต่ถูกขโมยกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือไปหมด กระเป๋าเป้ที่วางไว้ข้างล่างโต๊ะตอนไปนั่งที่คาเฟ่ ก็หายไปอย่างไม่มีวี่แวว
จากเหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกผิดหวังมากและทำให้คิดถึงความใจดีของพนักงานที่แลกเงินที่ประเทศไทยที่ยอมหยุดกินข้าวเที่ยงแล้วมาแก้ไขปัญหาให้ และความมีน้ำใจของคนขับรถแท็กซี่ที่อุตส่าห์วิ่งหอบๆแหกๆเพื่อมาส่งพาสปอร์ตที่ลืมไว้ในรถมาให้ ทำให้ไม่ตกเครื่องบิน
และนี่ก็คือประสบการณ์จริงจากการไปทำงานที่กรุงเทพและเยอรมันของคุณโยชิโอกะ เคโกะ ผู้สื่อข่าวของ Asahi Shimbun
ที่มา ( asahi )