สิ่งที่สำคัญสำหรับโอตะอนิเมะ รองลงมาจากเรื่องราวที่สนุกสนานและตัวละครที่มีเสน่ห์ ก็คือเพลงคู่อนิเมะที่มันส์ เร้าใจคนดูอนิเมะ เพลงที่ดีมีอิทธิพลกับความรู้สึกตอนที่ดูอนิเมะอย่างมากเลยทีเดียว
สิ่งที่จะนำเสนอวันนี้คือ “10อันดับเพลงอนิเมะยุค90’s ที่คิดว่าสุดยอดที่สุด”ที่สอบถามมาจากคนญี่ปุ่น500คน
อันดับ10 “Yūki 100%” จากเรื่อง ‘นินจาบอยรันทาโร่’
เพลงนี้ร้องโดยบอยส์กรุ๊ป Hikaru Genji ของค่ายเพลงจอห์นนี่ ซึ่งแม้หลังจากที่ Hikaru Genjiสลายตัวไป ก็มีกรุ๊ปรุ่นหลังๆ เช่น Ya-Ya-yah, Hey!Say!JUMP, Sexy Zone มาร้องต่อ เป็นเพลงอนิเมะประจำค่ายจอห์นนี่ก็ว่าได้
อันดับ9 “Kimi ga Suki da to Sakebitai” จากเรื่อง‘สแลมดังก์’
อันดับ8 “CHA-LA HEAD-CHA-LA” จากเรื่อง ‘ดราก้อนบอล Z’
เป็นเพลงที่ใช้กันมาอย่างยาวนานถึง4ปีครึ่งในดราก้อนบอล Z ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น WE GOTTA POWER แต่เพลงนี้ก็ยังมีอิทธิพลในบรรดาแฟนๆดราก้อนบอล จนได้มีการอัดใหม่ในปีค.ศ.2005 และในภาพยนตร์ปี2013 มีการใช้เวอร์ชั่นcoverของวง FLOWด้วย
อันดับ7 “1/3 no Junjou na Kanjou” จากเรื่อง ‘ซามูไรพเนจร’
ใครก็ตามที่ชอบเพลงรักเศร้าๆ กินใจ ก็แนะนำให้ฟังเพลงนี้ ว่าถึงความในใจของคนที่มีความรักแต่ไม่กล้าบอก และทุกข์ใจว่า “แม้แต่1/3ของความรู้สึกนี้ยังส่งไปไม่ถึงเลย” เพลงนี้หลังจากเผยแพร่ออกมา ก็มีวงต่างๆมาcoverหลายวงมาก จนเป็นที่รู้จักอย่างดีในคนที่ชอบอนิเมะยุคที่แล้ว
อันดับ6 “Moonlight Densetsu” จากเรื่อง ‘เซเลอร์มูน’ ‘เซเลอร์มูน R’
ถ้าถามว่าอนิเมะเรื่องไหนที่รุ่นป้าๆหน่อยจะรู้จักกันดี ก็คงจะเป็นเซเลอร์มูน น่าจะเป็นความทรงจำที่ดีในสมัยเด็กๆตอนที่เรายังฝันว่าจะเป็นฮีโร่อย่างเธอในอนาคต สำหรับเพลงนี้ ก็กลายเป็นหนึ่งในเพลงที่เป็นตัวแทนอนิเมะยุค90’s ไปแล้ว
อันดับ5 “Odoru Pompokolin” จากเรื่อง ‘หนูน้อยจอมซ่า มารุโกะจัง’
เพลงนี้คงจะเคยได้ยินบ้างสักครั้ง ในEDของการ์ตูนชื่อดังมารุโกะจัง “B.B.Queens” ซึ่งเป็นวงที่ร้องเพลงนี้ นึกว่าตอนแรกจะขายCDได้อย่างมากก็สัก100,000แผ่น เพราะไม่ได้มีการโฆษณาขายเพลงนี้เลย แต่ผลกลับออกมาว่าเพลงนี้ฮิตกระจาย ยอดขายสุดท้ายอยู่ที่1.9ล้านแผ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงที่ประสบความสำเร็จอย่างมากเลยทีเดียว
อันดับ4 “Anata Dake Mitsumeteru” จากเรื่อง ‘สแลมดังก์’
อันดับ3 “Sobakasu” จากเรื่อง ‘ซามูไรพเนจร’
เพลงของ JUDY AND MARY ที่ชาวญี่ปุ่นรู้จักกันดีที่สุด ก็คงเป็นเพลงนี้ ที่ชื่อเพลงแปลว่า “รอยกระ” ในการแต่งเพลงมีสตอรี่อยู่ว่า ตอนที่แต่งเพลงเมมเบอร์แต่ละคนยังไม่รู้ว่ารายละเอียดอนิเมะเป็นอย่างไร ก็เลยแต่งเพลงโดยใช้แนวอนิเมะ “แคนดี้ แคนดี้” แต่พอแต่งเสร็จ อนิเมะที่เอามาใช้คือซามูไรพเนจร… เหมือนว่าเมมเบอร์ก็ตกใจมากกับแนวอนิเมะที่คนละขั้วกันขนาดนี้ แต่สุดท้ายมันออกมาเป็นเพลงท็อปฮิต ก็…ถือว่าโอเค?
อันดับ2 “Sekai ga Owaru made wa…” จากเรื่อง ‘สแลมดังก์’
แนวเพลงนี้เป็นบัลลาร์ดแนวร็อคๆหน่อยเนื่องจากในอนิเมะ จังหวะที่เปิดเพลงเป็นฉากที่น่าประทับใจมาก ก็เลยเป็นเพลงที่ทุกคนฟังแล้วติดใจ ในแรงกิ้งยอดขายCDก็ติดอันดับ1อยู่2สัปดาห์ติด และอยู่ในท็อป10นานอยู่ถึง5-6เดือนเลย
อันดับ1 “A Cruel Angel’s Thesis” จากเรื่อง ‘อีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษา’
และอันดับ1ของเราคือเพลงในตำนานประวัติศาสตร์อนิเมะ ขนาดที่ว่าติดอันดับท็อป10เพลงที่นิยมร้องในคาราโอเกะทุกปีจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะเป็นอนิเมะที่ผ่านมาหลายปีมากแล้ว(ฉากครั้งแรกค.ศ.1995) แต่เพลงนี้ยังมีเด็กรุ่นใหม่สักม.ปลายร้องอยู่ในร้านคาราโอเกะประจำๆ ต้องยอมรับว่าเป็นเพลงที่ฟังติดหูจริงๆ ไม่มีการจางหาย
เห็นได้ว่าประวัติศาสตร์เพลงอนิเมะเป็นอะไรที่ยาวนานและลึกล้ำจริงๆ บรรยากาศของอนิเมะที่ทำให้เราขำจนปวดท้อง หรือซึ้งจนน้ำตาไหล ขึ้นอยู่กับเพลงที่เปิดในฉากนั้นๆเลยก็ว่าได้
